สำนึกดี……..ดูที่ไหน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวนักเรียนทะเลาะวิวาทกันในบริเวณเขตพื้นที่การศึกษาของเรา หนังสือพิมพ์รายวันบางฉบับ ให้ความสำคัญกับข่าวนี้มาก และจัดอันดับความสำคัญของข่าวให้อยู่หน้าหนึ่ง….ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย หลายระดับ…ได้รับผลกระทบไปตามกัน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับข่าวนักเรียนทะเลาะวิวาทกันในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นจิตสำนึกของแต่ละคนที่อยู่กันคนละมุมมอง
นักเรียนในโรงเรียนที่ถูกกล่าวถึงว่า เป็นผู้ก่อเหตุและได้รับข้อมูลด้านลบของโรงเรียนจากข่าวหนังสือพิมพ์ แสดงความไม่พอใจกับข่าวที่ออกไป คำถามมากมายเป็นประเด็นวิเคราะห์วิจารณ์ในชั้นเรียน …..ด้วยสำนึกดี…ที่ไม่อยากให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง
ครูและบุคลากรของโรงเรียนที่ทนไม่ได้ สืบหาข้อเท็จจริง จากฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน เพื่อหาข้อมูลสำหรับตอบคำถามผู้ปกครอง….ด้วยสำนึกดี…ในฐานะตัวแทนโรงเรียน
ฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน ต้องตอบคำถามทางโทรศัพท์ ชี้แจงข้อมูลที่ได้รับจากการสืบข้อเท็จจริง…และสอบสวนพฤติกรรมของนักเรียนที่เกี่ยวข้อง…ด้วยสำนึกดี…ตามหน้าที่ของการบริหารจัดการ
ฝ่ายบริหารโรงเรียน ต้องทำหนังสือรายงานหน่วยงานตามสายการบังคับบัญชา….เพื่อตอบคำถามที่หลั่งไหลเข้ามาทางโทรศัพท์
คณะกรรมการสถานศึกษา แสดงความห่วงใยผ่านบุตรหลานที่เรียนอยู่ในโรงเรียน และสบายใจเมื่อรับทราบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จากบันทึกการสอบสวน…และจากการสอบถามผู้บริหารและครูที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รับทราบข้อมูลจากบันทึกการสืบหาข้อเท็จจริง การสอบพฤติกรรมนักเรียน และของผู้ก่อเหตุที่ไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากข่าว แต่กลับเป็นนักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนอื่นซึ่งถือว่าหมดสภาพการเป็นนักเรียนแล้วเป็นผู้ก่อเหตุ…
ข่าวออกไปแล้ว……เรื่องราวต่างๆ กำลังจะเงียบหายไปตามวัฏจักรของการสื่อสาร แต่สำนึกดี ๆ ที่เรามองเห็นจะคงอยู่ตลอดไป…ในแวดวงของการศึกษา….ในระบบของการบริหารจัดการทางการศึกษา…นับเป็นสำนึกดีที่เด่นชัด….สำนึกนี้…จะเกิดขึ้นเพราะเหตุผลใดก็แล้วแต่…ล้วนเป็นสำนึกที่จรรโลงระบบ…จรรโลงสังคม…และจรรโลงใจให้ทำหน้าที่ต่อด้วยความมุ่งมั่น
เพราะข่าว…ก็คือ…ข่าว….ข่าวจะดีหรือร้าย….มีความสำคัญน้อยกว่าข้อเท็จจริงที่รู้อยู่แก่ใจ…และที่สำคัญที่สุด….. “เรามองเห็นอะไรในข่าว……เราได้เรียนรู้อะไรจากข่าว….เราอ่านข่าวด้วยสติ….หรือด้วย…อารมณ์…เราใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารหรือไม่…เราใช้อะไรตัดสิน…จากข่าว…หรือจากความเข้าใจในข้อเท็จจริง…คนเขียนข่าว…เขาก็เขียนตามที่เขาคิด เขียนตามความเข้าใจในขณะนั้น เพราะข่าวด่วนมาก…อาจไม่มีเวลากลั่นกรอง…
เราก็ได้แต่คิดว่า…..เมื่อข้อเท็จจริง ที่ผ่านการกลั่นกรองโดยรอบคอบด้วยสำนึกที่ดีของทุกฝ่ายปรากฏออกมา ว่า “ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากข่าว ไม่ใช่ฝ่ายผิด”
ใครจะเป็นผู้แสดงสำนึกดี ๆ ให้ผู้รับข่าวมองเห็น
โดย นางระพีร์ ปิยจันทร์
ที่มา:
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายค่ะ